วันอาทิตย์ที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2560

มาส์กข้าวสาเกมานา

สวัสดี สาวๆหน้าสวย ผิวใสทุกคนค่ะ วันนี้ฝนซาล่าของมารีวิว มีมาส์กหน้าตัวหนึ่งอยากให้ได้ลองกันค่ะ แถ้...แด้..... นั่นก็คือ มาส์กข้าวสาเก MANA ย้ำว่าเป็น มาส์กข้าวสาเก MANA

สูตรลับในตำนาน ผิวพรรณกุลสตรีญี่ปุ่น 🇯🇵 อาหารผิวชั้นเลิศ จากธรรมชาติ
🌾 ข้าวสาเก ญี่ปุ่น - Sake Rice Extract 🌾 ในกระบวนการหมักของ ข้าว Malt และยีสต์ ที่อุดมไปด้วยโปรตีนกว่า 30 ชนิด และ Polypeptide 
ได้รับการยอมรับ จากสถาบันวิจัยชั้นนำ ของประเทศญี่ปุ่น   
ฟื้นบำรุงผิวที่เสื่อมโทรม ให้ขาวใส ได้อย่างรวดเร็ว สารสกัดจากธรรมชาติ เหมาะสำหรับผิวบอบบางแพ้ง่ายสารอาหารจากข้าวสาเก จึงเป็นอาหารของผิว ชั้นเลิศเป็นเคล็ดลับที่ทำให้สาวญี่ปุ่นมีผิวขาวใส ดูอ่อนเยาว์อยู่เสมอ



มาส์กข้าวสาเก MANA ที่ฮอตที่สุดตอนนี้เป็นเจ้าแรก และเจ้าเดียวในประเทศไทย ด้วยนวัตกรรมซ่อมแซม ฟื้นฟูผิว เร่งด่วน ใน 1 คืน สูตร Sensitive ที่คิดค้นเพื่อผิวแพ้ง่าย โดยเฉพาะ! รองรับโดยสถาบันวิจัยชื่อดัง ในประเทศญี่ปุ่น 


มาส์กข้าวสาเก MANA เหมาะสำหรับใคร?
- นอนดึก หน้าโทรม ผิวหมองคล้ำ 
- ผิวแห้งกร้าน แต่งหน้าไม่ติด หน้าเป็นขุย
- ผิวเหี่ยวย่น ขาดความชุ่มชื่น
- ผิวแพ้ง่าย ผิวอ่อนแอ
- มีรอยสิว ฝ้า กระ จุดด่างดำ
- ริ้วรอยก่อนวัย เหี่ยวย่น
- ผิวแห้ง หยาบกร้าน
- ต้องเจอกับมลภาวะที่ทำร้ายผิวสะสม 
- อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ก่อให้เกิดสิว

มาส์กข้าวสาเก MANA ให้ประสิทธิภาพมากกว่าการบำรุงทั่วไป ถึง 5เท่า‼ เห็นผลชัดเจน ตั้งแต่คืนแรก !! ด้วยสารสกัดธรรมชาติ เข้มข้น "ข้าวสาเก" และ "น้ำแร่" จากประเทศญี่ปุ่น



ข้าวสาเก - Sake Extract (Rice Extract Koken)จากแหล่งปลูกข้าวที่ดีที่สุดของประเทศญี่ปุ่น
"แคว้นมิเอะ" มีการหมักบ่มข้าวสาเกที่ดีที่สุด และถูกสกัดมาเป็นสารสกัดที่เป็นเคล็ดลับ ที่ทำให้สาวญี่ปุ่นมี
ผิวขาวใส ดูเด็ก เพราะมี กรดอะมิโน โพลีเปปไทด์ และโปรตีนกว่า 30 ชนิด ให้ผิว ขาว กระจ่างใส เนียนนุ่ม สุขภาพผิวแข็งแรง

มาส์กข้าวสาเก MANA สารสกัดสาเก จากการหมักของข้าว Malt และยีสต์ ซึ่งอุดมไปด้วย โปรตีนกว่า 30 ชนิด และ Polypeptide ซึ่งมีกรดอะมิโนกว่า1,000หน่วย ที่ช่วยซ่อมแซม คืนความชุ่มชื้นแก่ผิว และยังมี organic acids ในปริมาณที่มาก นับเป็นอาหารผิวชั้นเลิศจากธรรมชาติ ที่ช่วยคืนผิวให้ ขาว กระจ่างใส ดูอ่อนเยาว์ 

สารอาหารจากสาเกนี้ จึงเป็นอาหารของผิวชั้นดีที่สาวญี่ปุ่นใช้กันเป็นประจำ ให้ประสิทธิภาพในการฟื้นบำรุงผิวที่เสื่อมโทรม ได้อย่างเร่งด่วน แต่อ่อนโยน

ความมหัศจรรย์ 8 ประการ มาส์กข้าวสาเก MANA
"ตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้"
.
� ผิวขาว กระจ่างใส มีออร่า 
� ให้ผิว เนียนนุ่ม เหมือนผิวเด็ก
� ผิวอิ่มน้ำ ชุ่มชื่น ทั้งวัน
� ผิวตึงกระชับ ไม่เหี่ยวย่น
� รูขุมขนเล็กลง อย่างเห็นได้ชัด
� จุดด่างดำ และ รอยสิว จางลง
� ปกป้องการเกิดสิว จากมลภาวะภายนอก
� ผิวสุขภาพดี อ่อนเยาว์ลง หากใช้อย่างต่อเนื่อง
.
.
เลขที่ อย.10-1-5913897
.


มาส์กข้าวสาเก MANA ผ่านการตรวจสอบสารต้องห้าม ปลอดภัย100%
.
� ไร้สารปรอท
� ไร้สารสเตียรอยด์
� ไร้สารไฮโดรควิโนน
.
มาส์กข้าวสาเก MANA 
มีขนาด (10 ml) ใช้ได้นาน 1 เดือน ราคาพิเศษ 390฿ จาก 560฿
และ ขนาด (30 ml) ใช้ได้นาน 3 เดือน ราคาพิเศษ 980฿ จาก1,290฿

Shop : EVEANDBOY (สาขาสยาม และเมกะบางนา)

หรือตัวแทนจัดจำหน่าย
┏━━━━━━━━━━━┓
🆔 Line : fonza77
🌐 FB : Fonza Pattiya
📱IG : llfonzamanall
┗━━━━━━━━━━━┛


วันอาทิตย์ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2559

ตาข่ายดักฝัน Dreamcatcher


ตาข่ายดักฝัน Dreamcatcher


F o n z a - S t y l e

            ฝนซามีความชอบส่วนตัวหรือเรียกว่าอยู่ๆเกิดชอบขึ้นมาก็ว่าได้ นั่นคือ "ตาข่ายดักฝัน" แลดูแล้วก็ไม่ได้จะช่วยอะไรในชีวิตประจำวันเลยสักเท่าไร ก็อย่างว่านะชอบคือชอบ หลงไหล คลั่งไคล้ อยากมีตาข่ายดักฝันกับเค้าบ้าง เรามาดูกันว่าที่มาของตาข่ายดักฝันแท้จริงแล้วคืออะไรกันเนี้ย .... เพราะชอบหนักมากเลยหาบทความอธิบายได้ตามนี้เลยค่ะ...
             ชนเผ่าพื้นเมืองในอเมริกาหรือที่เรียกกันว่า เผ่าอินเดียนแดง มีการสร้างงานหัตถกรรมของชนเผ่าที่เชื่อกันว่าเป็นเครื่องรางดักจับความฝัน เรียกกันว่า “Dreamcatcher”มีความหมายถึง “ตาข่ายดักฝัน” หรือ “เครื่องดักความฝัน” หัตถกรรมอินเดียนแดงชิ้นนี้เชื่อกันมาตั้งแต่โบราณว่าจะช่วยกรองฝัน ให้ฝันดีอยู่กับตัว และฝันร้ายสลายไป ลักษณะของตาข่ายดักฝันหรือเครื่องดักฝันจะเป็นห่วงวงกลม ข้างในถักทอเป็นตาข่าย และด้านล่างจะประดับประดาด้วยขนนก ลูกปัด รวมทั้งเครื่องประดับเล็กๆน้อยๆอื่นๆ
             ตาข่ายดักฝันมีที่มาจากอินเดียแดงเผ่าโอจิบวี(Ojibwe) หรือ ชนเผ่าชิปเปวา (Chippewa) ซึ่งเป็นชนเผ่าพื้นเมืองในสหรัฐอเมริกา ชนเผ่าชิปเปวาเชื่อกันว่า แมงมุมมีพลังอำนาจวิเศษที่สามารถทอใยดักจับความฝันได้เหมือนกับที่มันดักจับสัตว์เป็นอาหารนั่นเอง แม้ว่าวันเวลาที่มีการคิดสร้างตาข่ายดักฝัน ไม่มีใครรู้ที่มาว่ามีมาตั้งแต่เมื่อใด แต่ก็พอสันนิษฐานได้ว่าน่าจะก่อนคริสต์ศตวรรษที่ 20 ไม่นาน
             ชนเผ่าโอจิบวีเป็นอีกชนเผ่าหนึ่งที่นิยมประดิษฐ์สร้างตาข่ายดักฝันไว้เป็นจำนวนมาก กลายเป็นว่า ตาข่ายดักฝันเป็นสัญลักษณ์ของความร่วมมือร่วมใจเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของชนเผ่าต่างๆที่เป็นกลุ่มน้อยอยู่ในอเมริกา จนกระทั่งมันกลายมาเป็นของขวัญของกำนัลจากร้านขายของที่ระลึกในเขตที่อยู่อาศัยของชาวอินเดียแดงในปัจจุบัน

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
             
             เมื่อสิ้นปี 2558 ฝนซาได้มีโอกาสไปพักที่บ้านพักแห่งหนึ่งในเมืองเชียงใหม่ ฝนซาขอไม่เปิดเผยรายละเอียดแระกัน กับสิ่งที่ไม่คาดคิดคือ ณ บ้านหลังนี้นอกจากต้อนรับให้ที่พักหลับนอนแล้ว ยังมีสิ่งเซอร์ไพร์ให้ฝนซาประทับใจคือ...บ้านที่มีตาข่ายดักฝัน ห้อยระโยงระยางเต็มไปหมด ว่ะ ว้า ว้าววว...ตาข่ายดักฝัน




ขอยืมบรรยากาศบ้านหลังนี้บวกกับฝีมือการถ่ายภาพตาข่ายดักฝันของฝนซาเอง ถ่ายได้สวยงมากจริงๆเลย...ไม่ค่อยจะสปอยตัวเองเลย





ใต้ถุนบ้านเต็มไปด้วย "ตาข่ายดักฝัน" ที่ทำเองกับมือ ขอซื้อไม่ขายด้วยนะ เห็นแล้วประทับใจสุดอ่ะ

เลยขอเก็บภาพส่วนตัวไว้เป็นที่ระทึกกับ ตาข่ายดักฝัน นิดนึง สวยงามตามท้องเรื่อง...แจ่มสุดดดด



           รีวิวเล็กๆน้อยๆเพราะความชอบส่วนตัว เลยพาไปเจอบ้านตาข่ายดักฝันโดยไม่ตั้งใจ ทริปสิ้นปีนั้นเลยกลายเป็นภาพประทับใจกลับมาจนถึงทุกวันนี้ ... ไปตามหาซื้อตาข่ายดักฝันมาไว้ดักฝันกัน ...

           ปล.รีวิวความทรงจำนี้ถูกเอามาถ่ายทอดช้านิดนึง ยังไงฝนซาก็ยังคิดว่าการเก็บภาพตาข่ายดักฝันไว้ นอกจากมันจะย้ายจากสถานที่จริงมาอยู่ในความทรงจำแล้ว ยังไงเราก็ยังรับรู้และระลึกถึงมันได้ แบบไม่ลืม :)